วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

[Review] B2S E-book by Oakbee (Android) - 25 Apr 12

     หลังจากการลงทะเบียนในเว็บตาม [LINK] ก็โหลดโปรแกรมจาก Google play [LINK] จากนั้นก็ Login แล้วเริ่มใช้งาน โดยเริ่มทดลองโหลดหนังสือฟรีที่เขาแจกในเว็บก่อน ซึ่งหลังจากดยืนยันแล้วก็แอบงงเล็กน้อยว่าทำไมหนังสือไม่เข้ามาในเครื่องโดยอัตโนมัติ เมื่อลองเล่นเมนูต่างๆในโปรแกรมจึงได้ทราบว่าต้องกด Settings > Update Library ก่อน (วงกลมสีแดงในภาพ) จากนั้นจะมีรูปหนังสือมาโผล่ในเครื่องของเรา โดยจะจัดหมวดตามประเภท Book หรือ Magazine แล้วเมื่อกดบนหนังสือก็จะมีการ download เข้ามาไว้ในเครื่องและเริ่มอ่านได้


   





     สำหรับการอ่านนั้นระบบก็มีฟังก์ชันที่จำเป็นมาครบ แต่มีหลายอย่างที่ทำงานไม่ดีเท่าที่ควรอย่างเช่น ระบบการซูมใช้งานได้ไม่ค่อยสะดวก เนื่องจากต้องใช้เวลาในการ Refresh ถ้ามีการเลื่อนหน้าจอระหว่างอ่าน, ไม่สามารถเปลี่ยนหน้ากระดาษเมื่อมีการซูมได้
     ส่วนระบบ Bookmark หรือที่คั่นหนังสือ เราจะต้องกดคั่นหนังสือโดยใช้วิธี Manual - คลิ๊กที่หน้าจอหนึ่งครั้งจะมีที่คั่นหนังสือขึ้นมาที่มุมขวาบน (ตามรูป) จากนั้นก็ให้กดที่ตัวคั่นหนังสือจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสีส้ม (ตามรูป) เมื่อมาอ่านหนังสืออีกครั้งก็สามารถเข้าไปที่ Bookmark เพื่อหาหน้าที่เราคั่นไว้ได้



หลังจากกด Bookmark แล้ว
ก่อนกด Bookmark




















     ถ้าเป็นระบบ Kindle โปรแกรมจะสร้าง Bookmark โดยอัตโนมัติ และยังแชร์ Bookmark ในกรณีที่มีเครื่องมากกว่าหนึ่งเครื่องด้วย สมมุติว่าเราอ่านหนังสือเล่มหนึ่งในระบบ Android ถึงหน้า 50 ถ้ามาเปิดหนังสืออ่านต่อในเครื่อง Kindle keyboard เครื่องจะถามอัตโนมัติว่า "ระบบตรวจพบว่าเราเคยใช้เครื่อง Android อ่านหนังสือถึงหน้า 50 จะต้องการอ่านต่อจากหน้านั้นหรือไม่" ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้สะดวกขึ้นมากเลยครับ
      สำหรับปัญหาอื่นๆที่มีผู้ใช้งานรายอื่นๆเจอคือปัญหา Force closed ถ้าเปิดหนังสือที่มีหลายๆหน้า ซึ่งผมก็ยังไม่เจอเพราะว่าเคยซื้อแต่นิตยสารที่ไม่หนามากนัก (100หน้าเศษ)

วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2555

[Review] Steve Jobs by Walter Isaacson

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือขายดีมากๆ เล่มหนึ่งหลังจากบุคคลระดับโลกอย่าง Steve Jobs เสีียชีวิตลง ผมก็ได้มีโอกาสซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านในรูปแบบของ E-book ภาษาอังกฤษจากทาง Amazon.com

ผู้เขียน ( Walter Isaacson ) เคยเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์ต่างๆในสหรัฐอเมริกาและได้เขียนชีวประวัติของบุคคลสำคัญหลายคน จากนั้น Steve Jobs ก็ไปทาบทามนักข่าวคนนี้มาช่วยเขียนประวัติของเขาโดยการพูดคุยกับตัวเขาเองและคนรอบข้าง จึงกลายเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้

เนื้อหาของหนังสือเริ่มจากประวัติของพ่อแม่ตัวจริงของ Steve Jobs เรื่องราวที่เขาต้องไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม วีรกรรมและแนวความคิดในวัยเด็ก การเข้าเรียนมหาวิทยาลัย การตัดสินใจเลิกเรียน แนวความเชื่อทางศาสนา รูปแบบการใช้ชีวิต การก่อร่างสร้างธุรกิจ แนวความคิดในการทำธุรกิจ เรื่องราวตั้งแต่ก่อตั้ง Apple จนกระทั่งประสบความสำเร็จดังเช่นทุกวันนี้ และฉากสุดท้ายในชีวิตของเขาตอนป่วย

สำหรับหนังสือภาษาอังกฤษนั้น จะมีหลายส่วนที่ใช้คำศัพท์แสดงถึงอารมณ์ความรู้สึกซึ่งผมไม่ค่อยคุ้นเคย แต่โชคดีที่ใช้ Kindle จึงสามารถแปลได้ง่ายๆโดยเอาตัว Curser ไปไว้ที่หน้าคำศัพท์ ดังนั้นผมแนะนำผู้อ่านทั่วๆไปให้ซื้อหนังสือแปลเป็นภาษาไทยจะเข้าใจง่ายกว่าครับ

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

รีวิว Kindle fire ฉบับใช้งานจริง (ในประเทศไทย) - Part2: Root / ลงRom / แก้ปัญหา


ขอเตือนไว้ก่อนว่าการ Root เครื่องและลง Rom ใหม่เป็นการกระทำที่มีความเสี่ยงและจะทำให้เครื่องหมดประกันได้ ผู้อ่านต้องรับผิดชอบผลที่จะเกิดขึ้นเอง ทางผู้เขียนขอปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆ

ขั้นตอนการ Root Kindle Fire
     ขั้นตอนด้านล่างสรุปจากประสบการณ์จริงของผม ถ้าใครลองแล้วเป็นอย่างไรก็เสนอแนะมาได้ครับ
1. เนื่องจาก Firmware ที่ลงมาตอนแรกเป็น version 6.2.x (ไม่แน่ใจ) เมื่อเปิด Wifi ค้างไว้ระบบจึง update ให้อัตโนมัติเป็น version 6.3 ดังนั้นข้อความด้านล่างเป็นการ Root version 6.3 นะครับ
2.จากนั้นก็ Root ซึ่งทำได้ง่ายมาก สามารถโหลดโปรแกรมสำเร็จรูปมา แล้วก็ลงตามขั้นตอนได้เลย
     โปรแกรมที่จำเป็นต้องมี: Kindle fire utility 0.9.5
                                     Android SDK
                                     Java SE development Kit
              *สองอันหลังไม่แน่ใจว่าจำเป็นหรือเปล่าครับ แต่ลงไว้ก่อนก็ดีกว่า
     ขั้นตอนการ Root
         (1) เริ่มจากเฉพาะส่วนของ Pre requisites ใน [Link] นี้
         (2) จากนั้นก็ทำตามขั้นตอน 1-4 ใน [Link] นี้ (ขั้นตอนที่ 4 ตามลิงค์หมายถึงให้พิมพ์ 2 แล้ว
              กด Enter เพื่อ Root ครับ)

สุดท้าย
Kindle Fire ก็ได้กินไอติม
     ขอให้พิจารณาคำเตือนด้านบนอีกรอบนะครับ และจะบอกด้วยว่าเมื่อลง Ice Cream Sandwich แล้วฟังก์ชันบางอย่างใช้งานได้ไม่สมบูรณ์

วิธีการลงรอม
ก่อนอื่นเราต้องรูท และลงโปรแกรม TWRP โดยใช้ Kindle fire Utility 0.9.5 จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนดังนี้
1.Download file ROM* ที่เราต้องการลง และเปลี่ยนชื่อไฟล์เป็น update.zip (โหลดได้จากเว็บตามหัวข้อเรื่อง ROM ด้านล่างครับ)
2.
Copy ไฟล์นี้ไปไว้ใน SD card ของเครื่อง Kindle โดยไม่ต้องใส่โฟลเดอร์ใดๆ (SD card คือ Drive ที่เวลาต่อคอมแล้วมองเห็นนั่นแหล่ะครับ)
3.
Safety remove Kindle ออกมา จากนั้นปิดเครื่อง
4.เปิดเครื่องใหม่และกดปุ่ม
Power ซ้ำ เพื่อเข้าโปรแกรม TWRP
5.เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้กด
Backup ข้อมูลปัจจุบันก่อน
6.กดปุ่ม
Wipe > Data (factory reset) แล้วยืนยัน จากนั้นก็กด Wipe Cache ยืนยัน และสุดท้ายกด Wipe Dalvik แล้วยืนยัน
7.ออกมาหน้าจอ
Home กด Install > เลือกรอมที่เราใส่ไว้ในเครื่อง (file update.zip) > กด Flash
8.Wipe Cache และ Dalvik
9.บูทเครื่องใหม่

ทีนี้ถ้าเรามีบัญชีของ Amazon และอยากซื้อหนังสือของเขามาอ่าน ก็สามารถลง APP kindle ได้จาก Google Play เลยครับ



















ข้อดี-ข้อเสีย ของ ROM แต่ละตัว (8 Aug 12)


- Gingerbread หรือ Android 2.3
     ข้อดี สามารถใช้ฟังก์ชันที่ออกแบบมากับเครื่องได้เกือบครบ
     ข้อเสีย หน้าตาไม่สวย, ลูกเล่นไม่เท่า ICS, ปุ่ม Home มักจะ Error และหายไป

- Ice cream Sandwich (ICS) หรือ Android 4.0
     ข้อดี หน้าตาสวยงาม มีลูกเล่นมากกว่า Gingerbread ค่อนข้างเยอะ
     ข้อเสีย ไม่สามารถใช้งานบางอย่างได้ตามข้อจำกัดของ Kernel
  สำหรับตัวนี้.. ล่าสุดผมได้ลง Glazed ICS ซึ่งค่อนข้างน่าพอใจครับ

- Jelly Bean หรือ Android 4.1
     ข้อดี เป็นระบบปฏิบัติการล่าสุด ณ ตอนนี้ ซึ่งปรับปรุงมาจาก ICS
     ข้อเสีย ไม่สามารถใช้งานบางอย่างได้ตามข้อจำกัดของ Kernel, ยังอยู่ในช่วงแรกของการพัฒนา

ทั้งหมดนี้สามารถไปเลือกโหลดได้จาก ที่นี่ ครับ (ดูที่มีวงเล็บคำว่า ROM ไว้ด้านหน้า)




เปลี่ยน Kindle fireให้กลายเป็นที่ทับกระดาษ และวิธีการแก้ไข ^^
     เนื่องจากผมพยายามลงรอมแต่ไม่ผ่าน(คาดว่าสาเหตุจากไม่ได้เปลี่ยนชื่อไฟล์ เป็น update.zip) แล้วก็ยังพยายามลงซ้ำอีกจนกระทั่งเริ่มออกอาการ "
Boot วนที่ Recovery mode ของโปรแกรม TWRP" ตอนนั้นก็ยังไม่คิดอะไรมาก ยังพยายามลงรอมซ้ำแล้วซ้ำอีก.. สุดท้ายตอนเปิดเครื่องจะค้างที่สามเหลี่ยมสีเหลืองและไม่สามารถทำอะไรได้เลย      หลังจากงมอยู่ประมาณวันกว่าๆก็พบทางออกในการแก้ปัญหาตามนี้*

1.ต่อ Kindle fire เข้ากับคอมพิวเตอร์ และเครื่องคอมพิวเตอร์จะเจอ Kindle ของเรา
2.ต้องพยายามแก้ให้บูทเข้าระบบ Recovery ของ TWRP ให้ได้ก่อน โดยใช้ Kindle Fire utility 0.9.5
   เลือก Boot mode > Recovery
3.ปิดเครื่อง ดึงออกจากคอมฯ แล้วเปิดเครื่องอีกรอบ จะไม่มีอาการค้างที่หน้าจอสามเหลี่ยมสีเหลืองแล้ว
   แต่จะเข้าไปในระบบ Recovery mode ของ TWRP
4.ทำการ Restore ข้อมูลที่ได้ Backup ไว้
5.หลังจาก Reboot เครื่อง ผมก็กลับมาเจอปัญหา “Boot วนที่ Recovery mode ของโปรแกรม TWRP”
   ดังนั้นจึงต้องเพิ่งโปรแกรม Kindlefire unbrick utility ซึ่งต้องเสียบ Kindle เข้ากับคอมพิวเตอร์
   รันโปรแกรม แล้วเลือกปัญหาที่เราเจอ.. สุดท้ายปัญหาจะถูกแก้โดยอัตโนมัติ
6.ถ้าต้องการลง Rom ก็ให้ไปทำตามหัวข้อด้านบน


*กระบวนการกู้คืน ผมใช้ windows 7 นะครับ ไม่แน่ใจว่า Windows XP จะใช้ได้เหมือนกันหรือเปล่า

Part1: ซื้อที่ไหน ซื้อตอนนี้ดีไหม

วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

รีวิว Kindle fire ฉบับใช้งานจริง (ในประเทศไทย) - Part1

เนื่องจากปีก่อนผมได้ซื้อ Kindle Keyboard ไว้เพื่อใช้อ่าน E-book แต่พบว่าไม่สะดวกในการอ่านเอกสารขนาด A4 รวมไปถึงไฟล์ Excel ต่างๆ ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะหา Tablet ขนาด 7” สักตัว (ไม่อยากให้น้ำหนักมากเกินไป แต่ถ้าเล็กกว่านี้หน้าจอก็จะเล็กเกินไป) ซึ่งสุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อ Kindle fire เนื่องจากมี Function ที่ต้องการครบ แบรนด์น่าเชื่อถือ และราคาเป็นไปตามงบประมาณที่ตั้งไว้

ซื้อจากไหนดี? (Update 10/9/55)
     จากที่พยายามหาข้อมูลดูพบว่าเรายังไม่สามารถสั่งจาก Web Amazon.com ให้ส่งมายังประเทศไทยได้โดยตรง ดังนั้นจึงต้องศึกษาวิธีการอื่นๆ ซึ่งเท่าที่รู้ก็มีตามนี้
     
1.ฝากคนรู้จักหิ้วจากอเมริกา
           วิธีการนี้เสียแค่ค่าเครื่อง
$159 และอาจจะต้องจ่ายภาษีนำเข้าด้วย
      2.สั่งของจาก Amazon.com ให้ส่งไปยังบริษัท Shipping ในอเมริกา จากนั้นให้บริษัทส่งต่อมาที่ไทย
           วิธีการนี้เสียค่าเครื่อง $159 + ค่าขนส่งประมาณ $30-$50 + ภาษี? โดยอาจจะต้องไปเคลียร์ของเอง
      3.สั่งของจากคนไทยที่นำมาขายในรูปแบบ Pre-order ซึ่งน่าจะใช้เวลามากกว่าครึ่งเดือน

         
ขั้นตอนคือ สั่งของกับร้าน> โอนเงิน> ร้านสั่งของจากอเมริกา> ของส่งมาที่ไทย>ร้านส่งของให้เรา
        จากที่หาในเน็ตจะเจอประมาณ 2-3 ร้านซึ่งราคาขายอยู่ที่ 6,200 บาทต่อเครื่อง
     4.สั่งของจากคนไทยที่ซื้อเครื่องมา Stock
           อันนี้ก็เจออยู่ประมาณ 2-3 ร้านเช่นกัน ซึ่งสุดท้ายผมซื้อจาก kindleok.com ที่ราคา 8,000 บาท (ก่อนปรับราคา)
จริงๆแล้วอาจจะมีวิธีการอื่นอีก ตัวอย่างด้านบนเป็นเพียงสิ่งที่ผมหามาได้ครับ

 
แกะกล่อง ทดลองใช้งาน
     หลังจากแกะกล่องออกมาก็จะพบตัวเครื่องใส่ถุงพลาสติกวางอยู่ด้านบน
และมี Adapter วางอยู่ที่ด้านล่าง
เมื่อหยิบตัวเครื่องขึ้นมาดูก็รู้สึกว่าแน่นๆหนักๆเล็กน้อย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบการประกอบลักษณะนี้ สำหรับการออกแบบลักษณะภายนอกก็ค่อนข้างเรียบๆ มีปุ่มให้กดปุ่มให้กดเพียงปุ่มเดียวคือปุ่ม
Power และมีช่องต่ออุปกรณ์ภายนอกเพียงสองช่องคือ ช่องต่อหูฟัง3.5mm และ Micro-USB สำหรับเสียบสายชาร์จกับต่อคอมพิวเตอร์ ประเด็นที่จะติเกี่ยวกับการออกแบบตัวเครื่องคงจะมีเรื่องเดียวคือไม่มีปุ่มสำหรับเพิ่มลดเสียง ซึ่งทำให้การปรับเสียงทำได้ลำบากกว่าที่ควร
      เมื่อกดสวิตซ์เครื่องก็จะพบกับโปรแกรมของ
Amazon.com ซึ่งเน้นใช้เครื่องสำหรับอ่านหนังสือ และเมื่อลงทะเบียนเชื่อมกับ Account ที่เคยซื้อหนังสือไว้แล้ว ก็จะมีปกหนังสือเข้ามาใน Kindle Fire โดยอัตโนมัติ (แต่ถ้าจะอ่านต้องกด Download  เข้ามาก่อน) การต่ออินเตอร์เน็ตก็สามารถทำได้ผ่าน Wifi ซึ่งเป็นทางเลือกเดียวที่เครื่องออกแบบมา ส่วนระบบ Entertainment อื่นๆเช่น เพลง, วีดีโอ จาก Amazon ระบบยังไม่เปิดให้ใช้งานในเมืองไทย ณ ขณะนี้ แต่ที่แย่ที่สุดคือไม่เปิดให้ดาวน์โหลด APPS ของ Amazon แม้ว่าจะเป็นของฟรี ดังนั้นจึงเป็นแรงผลักดันให้ Root เครื่อง เพื่อที่จะลงรอมใหม่

Spec และฟังก์ชั่น: http://www.amazon.com/gp/product/B0051VVOB2/ref=famstripe_kf
รีวิวประสิทธิภาพเครื่องโดยเว็บต่างประเทศ
: http://www.engadget.com/2011/11/14/amazon-kindle-fire-review/


รอก่อนดีไหม มีข่าวลือว่ารุ่นใหม่กำลังมา !!!  (Update 10/9/55)
    
ตอนนี้มีข่าวลือมาว่า Amazon จะออก Kindle fire รุ่นใหม่ประมาณ 2-4 รุ่น ในช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ซึ่งจะมีรุ่นขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นคือ 10.1 และอาจจะมีรุ่นขนาดหน้าจอ 8.9 นิ้วด้วย สำหรับขนาดหน้าจอเท่าเดิม (7นิ้ว) ก็จะมีรุ่นปรับปรุงใหม่ออกมาช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยอาจจะแบ่งเป็น 2 spec - เพิ่ม model สำหรับ entry-level ซึ่งจะมี spec ต่ำกว่า (Source: Digitimes.com)
     สุดท้ายแล้วมีหลายคนพยากรณ์ว่ายอดขาย Tablet PC ทั่วโลกในปีนี้จะนำโดย Apple iPad และอันดับสองจะเปลี่ยนจาก Samsung Galaxy tab เป็น Amazon Kindle ซึ่งคงจะต้องติดตามกันต่อไป
     ทีนี้กลับมาที่ประเด็นว่าจะซื้อ Kindle fire ตอนนี้เลยดีหรือไม่.. ก็คงต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า จะเอาเครื่องมาใช้ทำอะไร แล้วSpecปัจจุบันเพียงพอสำหรับการใช้งานหรือเปล่า, ซื้อมาแล้วใช้งานทันทีหรือเปล่า, งบประมาณเพียงพอหรือเปล่า ถ้าคำตอบทุกข้อคือ"ใช่" คงไม่ต้องลังเลแล้วครับ

     สรุปว่ามีการเปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่ในเดือนกันยายน 2555 และเริ่มขายจริงต้นเดือนตุลาคม.. ถ้าคุณต้องการนำเครื่องมาใช้อ่านหนังสือเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องใช้กล้อง และหน่วยความจำ 8GB เพียงพอ (เหลือจริงประมาณ 5 GB) ก็น่าจะซื้อรุ่นนี้ได้เลยครับ.. แต่ถ้าไม่เพียงพอใช้งานก็แนะนำให้ซื้อรุ่นใหม่โดยเพิ่มเงินประมาณ 1,300 บาท

Part2: Root / ลงRom / แก้ปัญหา